วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551

ตำนานหลวงพ่อทอง วัดเขาตะเครา(ไทย อ.อมรา)

"หลวงพ่อทอง" วัดเขาตะเครา เป็นพระพุทธรูปนั่ง ปางมารวิชัย หล่อด้วยสำริด หน้าตักกว้าง..21..นิ้วและสูง..29..นิ้ว…ปิดทองคำเปลวอร่ามทั้งองค์ ไม่มีหลักฐานระบุสร้างปีใด ใครเป็นผู้สร้าง มีเพียงตำนานเอ่ยถึง โดยเรื่องที่ ใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด มีรายละเอียด ดังนี้ มีพระสงฆ์ 2 รูป สามเณร 1 รูป ทั้งหมดเป็นพี่น้องกัน และมีฤทธิ์เดชเวทมนต์แรงกล้ามาก ทั้ง 3 ได้ทดลองวิชา โดยรูปแรกได้ทำน้ำมนต์ไว้และสั่งรูปที่2ว่า"เดี๋ยวจะกระโดดลงน้ำแล้วจะกลายเป็นพระพุทธรูปลอยขึ้นมา แล้วให้ใช้น้ำมนต์รดลงไปก็จะกลับเป็นพระสงฆ์ตามเดิม" แต่เมื่อกระโดดลงไปแล้วลอยขึ้นมาเป็นพระพุทธรูป รูปที่ 2 ก็ไม่รดน้ำมนต์ให้ โดยบอกว่า "เมื่อพี่ทำได้เราก็ทำได้" และได้สั่งให้สามเณร รดน้ำมนต์ให้ แล้วก็กระโดดลงน้ำ กลายเป็นพระพุทธรูปลอยขึ้นมา ด้านสามเณร เมื่อเห็นว่า พระทั้ง 2 รูปทำได้ เราก็ทำได้เหมือนกัน จึงกระโดดลงน้ำแล้วกลายเป็นพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ โดยที่ไม่มีใครนำน้ำมนต์รดให้ จึงกลายเป็นพระพุทธรูปลอยน้ำอยู่เช่นนั้น ต่อมาได้แสดงอภินิหาร โดยลอยทวนน้ำไปขึ้นที่ ช.พัน 2 ทหารช่างอยุธยา ภายหลังเรียกว่า คุ้ง 3 พระทวน ปัจจุบันเรียกเพี้ยนไปเป็น สัมประทวน ช่วงเวลาต่อมา ได้ลอยน้ำโดยเอาเศียรวน ไปอยู่ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ชาวบ้านเห็นและมีผู้นำสายสิญจน์ไปผูก พร้อมปลูกศาลเพียงตา อาราธนาอัญเชิญองค์กลางขึ้น ไว้ได้ 1 องค์ ปัจจุบันประดิษฐานอยู่วัดโสธรวราราม มีชื่อเรียกว่า "หลวงพ่อโสธร" จ.ฉะเชิงเทรา เหลืออีก 2 องค์ ลอยมาโผล่ที่ชายทะเลแถบ จ.สมุทรสงคราม ชาวบ้านจึงได้ใช้เชือกจำนวน 3 เส้น ผูกพระพุทธรูปเพื่อดึงขึ้นฝั่ง แม้จะใช้คนจำนวนมาก ก็ไม่สามารถดึงขึ้นได้ จนเชือกขาดทั้ง 3 เส้น พระพุทธรูปจึงจมน้ำหายไป ต่อมาชาวบ้านจึงได้เรียกบริเวณนั้นว่าสามเส้นและต่อมาเรียกเพี้ยนเป็นสามเสน ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2302 สมัยปลายกรุงศรีอยุธยาก่อนเสียกรุงต่อพม่า ชาวบ้านแหลม จ.เพชรบุรีได้อพยพหนีพม่าไปตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ปากคลองแม่กลอง อ.เมือง จ.สมุทรสง-คราม ใกล้กับวัดบ้านแหลมหรือวัดเพชรสมุทร ซึ่งวัดนี้ในอดีตมีชื่อว่าวัดศรีจำปา ระหว่างที่ชาวประมงได้ออกเรือหาปลา ได้ลากอวนไปติดพระพุทธรูป 2 องค์ โดยองค์หนึ่งเป็นพระพุทธรูปแบบนั่งและอีก 1 องค์ เป็นแบบยืน จึงได้ช่วยกันนำพระพุทธรูปปางยืน ไปประดิษฐานไว้ที่วัดบ้านแหลม ต่อมา ชาวบ้านได้เรียกว่า "หลวงพ่อวัดบ้านแหลม" ส่วนอีก 1 องค์ ซึ่งเป็นปางนั่งสมาธิได้มอบให้ชาวบางตะบูน อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี เนื่องจากเป็นพี่น้องในย่านน้ำเดียวกัน ชาวบางตะบูน จึงได้นำมาประดิษฐานไว้ที่วัดเขาตะเคราและเรียกชื่อพระพุทธรูปว่า"หลวงพ่อวัดเขาตะเครา" พระมงคลวชิราจารย์ เจ้าอาวาสวัดเขาตะเครา ได้เล่าถึงที่มาของชื่อหลวงพ่อทองแห่งวัดเขาตะเคราว่า เดิมชาวบ้านจะเรียกพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์นี้ว่า หลวงพ่อวัดเขาตะเครา เป็นที่เคารพบูชาของชาวประมงเป็นอย่างมาก แต่ได้มาเปลี่ยนชื่อเรียกเป็นหลวงพ่อทองวัดเขาตะเครา หลังจากที่เกิดปรากฏการณ์ปาฏิหาริย์ขึ้น เมื่อกลางคืนวันที่ 24 กันยายน 2527 ขณะที่อาตมาจำวัด ได้ฝันว่ามีพระอายุมากรูปหนึ่งนำถุงบรรจุทองคำยื่นให้พร้อมกับพูดว่าเอาไปหลังจากนั้นก็หายไป ต่อมาวันที่ 28 กันยายน 2527 ได้เกิดไฟลุกไหม้ท่วมองค์หลวงพ่อวัดเขาตะเครา ขณะนั้นประดิษฐานอยู่ในอุโบสถ ขณะไฟลุกไหม้ทำให้ทองคำหลอมไหม้ไหลออกมาจากองค์หลวงพ่อทอง เมื่อนำทองคำทั้งหมดมาชั่งน้ำหนัก ปรากฏว่าได้น้ำหนักถึง 9 กิโลกรัม 9 ขีด หลวงพ่อจึงได้นำเอาทองไปจัดทำเป็นลูกอมทองไหลหลวงพ่อทอง แล้วแจกจ่ายให้พุทธศาสนิกชนนำไปติดตัวและบูชา ได้ปัจจัยมาทั้งหมด 11 ล้านบาท เพื่อนำมาสร้างมณฑป โรงเรียน และ ศาสนสถานอื่นๆ ต่อมาได้เกิดปาฏิหาริย์มากมาย โดยเฉพาะทางด้านแคล้วคลาด ทำให้ประชาชนเคารพศรัทธามากขึ้น และเรียกหลวงพ่อทองวัดเขาตะเครา ตลอดมาถึงปัจจุบัน

วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2551

Crossword

Crossword จ้าๆๆๆๆๆ ลองเข้าไปเล่นกันดูนะ

http://www.upchill.com/download.php?id=db3945264da0b08e9613f15e13fdd7d0

วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2551

"True love" (Eng อ.เกยูร)

There is one hunchback man. His name is Moses. He go to Hamburg and visit with merchant. Then ,he meet a merchant 's daughter. She is beautiful women. Then , Moses fall in love with her. But She don't love him. Because Moses is hunchback. That make he very sad. One day before Moses leave from Hamburg. He climb to women 's room. then, they talk about heaven. Moses tell the women "The god have sent a wife for every man and the god talk to him . He is a perfect man but his wife is hunchback. then, he request the god to exchange he become to hunchback and his wife is beautiful woman" The women impress with Moses and then she fall in love with him.

...Happy ending...

วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2551

HaPpY BirThDaY 2 mY MoM


สวัสดีจ้าๆๆ วันนี้วันอาทิตย์ แต่มันมีอะไรพิเศษมากกว่านั้น เพราะวันนี้เป็นวันเกิดแม่เราเองๆๆ แทนที่วันนี้จะได้อยู่บ้านกับครอบรัวแล้วก็ไปทำบุญกับแม่ เรากลับต้องไปเรียนคณิตที่โรงเรียน เมื่อวานก็เคมี วันนี้คณิต เออ..ดีเน้อ เสาร์-อาทิตย์ไม่ได้หยุดเลยอ่ะ เซงๆๆ การบ้านก็ทำไม่ทัน วันนี้ภาคเช้าเรียนเกี่ยวกับเวทคณิต ก็เป็นการบวก ลบ คูณ หารเลขนี่แหละ แต่เป็นวิธีอื่นๆที่เราไม่เคยทำ ก็สนุกดีนะ ตอนภาคบ่ายก็เรียนเรื่องระเบียบวิธีพิสูจน์ จะหลับให้ได้เลย ง่วงมากๆๆ เลิกเรียนประมาณสี่โมงเย็น พ่อกับพี่มีนก็มารับ แล้วเราสามคนพ่อลูกก็ไปซื้อเค้กให้แม่กัน อิอิ ตั้งใจเลือกเต็มที่ เพื่อแม่ 555+ พอกลับมาถึงบ้านก็ออกไปกินข้าวนอกบ้านกัน ซึ่งเป็นอะไรที่โชคร้ายมาก จะกินส้มตำ ส้มตำก็ดันหมด ข้าวเหนียวก็หมด อาหารก็ไม่อร่อยอ่ะ สู้แม่เราทำไม่ได้เลย จากนั้นเรา 4 คนก็กลับมาเป่าเค้กกันที่บ้าน คงไม่ต้องบอกหรอกนะว่าเค้กมันอะไรอร่อยมากมายขนาดไหน อิอิ เนื่องจากวันนี้เป็นวันเกิดของแม่ หมิวก็ขอให้แม่มีความสุขมากๆๆนะจ้ะ ..ร๊ากแม่จัง

วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2551

เคมี๊..เคมี

ซาหวัดดีจร้าๆๆๆๆ วันนี้วันเสาร์อีกแล้ว ซึ่งก็ขาดเรียนพิเศษฟิสิกส์อีกแล้วด้วย เพราะว่าไปราชภัฏฯ มา หลังจากที่ไปชีว และฟิสิกส์มาแล้ว วันนี้ก็เป็นเคมีบ้างหล่ะนะ เป็นgift ที่อยากไปที่สุด แล้วก็คิดว่าน่าจะสนุกที่สุดด้วย วันนี้เรียนเรื่องการแยกสาร แล้วก็ได้ทดลองทำจริงด้วย ทำการทดลองเรื่อง การสกัดคาเฟอีนจากใบชา สารบางอย่างก็ไม่เคยเจอ เครื่องมือบางอย่างก็ไม่เคยใช้ แต่วันนี้ได้ลองทำก็สนุกดี แต่เราก็ดันซู่มซ่ามทำของตกแตกไปแหละ 55+ งงตัวเองเหมือนกันแหละ แหะๆๆ ตอนเช้าก็ฟิตดีหรอก พอบ่ายๆเริ่มง่วง แล้วก็เกิดการผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ ในการทดลอง เราเลยนั่งคุยกับเพื่อนซะงั้น แต่วันนี้เลิกเร็วมากอ่ะ เร็วกว่าชีวฯ กับฟิสิกส์ ก็ดีเหมือนกัน คิคิ ....พอกลับไปถึงโรงเรียน ก็ลุยโครงงานกันต่อเลย เพื่อนๆๆขาสร้างบ้านเกือบเสดแล้ว มุงหลังคาแล้วด้วย ส่วนเรากับภัทรนั่งทำเนื้อหา (แอบหลับไปพักใหญ่ๆ) อิอิ 5โมงเย็นกว่าๆ ก็แยกย้ายกลับบ้าน ...

>>ความรู้สึกรวมๆวันนี้สนุกมาก แต่หงุดหงิดอะไรบางอย่างมากมาย สงสัยเราเป็นพวกโรคจิต ชอบคิดมาก เหอะๆๆ


ปล.วันนี้ไม่มีรูปมาฝาก เพราะลืมเอากล้องไป

วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2551

ความล้มเหลวมันคืออะไรกันแน่ ?

ความล้มเหลว ไม่ได้หมายความว่า คุณคือคนที่ล้มเหลว

แต่มันหมายถึง คุณยังไม่ประสบความสำเร็จต่างหาก

ความล้มเหลวไม่ได้หมายความว่า คุณจะไม่ประสพผลสำเร็จในสิ่งใดเลย

แต่มันหมายถึง คุณได้เรียนรู้บางสิ่งบางอย่างเพิ่มขึ้น

ความล้มเหลว ไม่ได้หมายความว่า คุณขาดความสง่างาม

แต่มันหมายถึง คุณกำลังยินดีในความพยายามต่างหาก

ความล้มเหลว ไม่ได้หมายความว่า คุณไม่ได้มีมัน

แต่มันหมายถึง คุณไม่สมบูรณ์แบบเท่านั้นเอง

ความล้มเหลว ไม่ได้หมายความว่า คุณได้สูญเสียชีวิตไปแล้ว

แต่มันหมายถึง คุณมีเหตุผลที่จะเริ่มใหม่อีกไหม

ความล้มเหลว ไม่ได้หมายความว่า คุณจะล้มเลิก

แต่มันหมายถึง คุณต้องพยายามให้หนักกว่าเก่า

ความล้มเหลว ไม่ได้หมายความว่า คุณจะไม่ทำมันอีก

แต่มันหมายถึง คุณต้องใช้เวลามากกว่าเก่าอีกเล็กน้อย

ความล้มเหลว ไม่ได้หมายความว่า พระเจ้าไม่แยแสคุณ

แต่มันหมายถึง พระเจ้ามีหนทางที่ดีกว่าสำหรับคุณต่างหาก



ที่มา : http://www.jabchai.com/main/view_joke.php?id=12112